Progenies of the Great Apocalypse ดุเดือดรุนแรงด้วยการใช้ริฟฟ์หนักแน่นและความเร็วสุดขั้ว
“Progenies of the Great Apocalypse” เป็นผลงานเพลงที่โดดเด่นจากวง blackened death metal ชื่อดัง “Immolation” วงดนตรีสัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 ในเมืองนิวยอร์ก โดยมีแกนหลักของวงคือ Ross Dolan (ร้องนำ), Robert Vigna (กีตาร์), และ Steve Shalaty (เบส)
Immolation เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ข้ามผ่านกระแสโลหะหนักมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของ black metal และ death metal ซึ่งสองแนวทางนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในแง่ดนตรีและเนื้อหา Immolation สามารถผสมผสานความรุนแรงอันโหมดุดันของ death metal เข้ากับบรรยากาศมืดมิดน่าสะพรึงกลัวของ black metal ได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ Immolation เป็นที่รู้จักและยกย่องในวงการ
“Progenies of the Great Apocalypse” ถูกปล่อยออกมาในปี 1996 ในอัลบั้ม “Here in After” ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นโ magisterial ของ Immolation แน่นอนว่าเพลงนี้ไม่ใช่เพลงที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่เพิ่งจะสัมผัสกับโลหะหนัก เพราะมันคือการทลายกำแพงของความรุนแรงและความคลั่งไคล้ โดย Ross Dolan ร้องด้วยเสียง Growl ที่ต่ำลึกลับน่าหวาดกลัว
ส่วนริฟฟ์กีตาร์ของ Robert Vigna ถูกแต่งขึ้นมาอย่างมีความคิดสร้างสรรค์และซับซ้อน ซาวนด์ของกีตาร์ถูกปรับแต่งให้มีความหนักแน่นและคมชัด ซึ่งทำให้มันโดดเด่นออกมาจากเพลง death metal อื่นๆ Steve Shalaty บันทึกเบสด้วยการรัวที่รวดเร็วและทรงพลัง และ Alex Hernandez (กลอง) ขับเคลื่อนเพลงด้วยจังหวะที่รุนแรงและไม่ยอมให้หยุด
เนื้อหาของ “Progenies of the Great Apocalypse” กล่าวถึงความล่มสลายของโลก สงครามนิวเคลียร์ การทำลายล้าง และความสิ้นหวัง
Immolation เป็นวงดนตรีที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการโลหะหนัก พวกเขาได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์และแฟนเพลงทั่วโลก
องค์ประกอบดนตรีของ “Progenies of the Great Apocalypse”
เพลงนี้มีโครงสร้างที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยแบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก:
1. Intro: เริ่มต้นด้วยเสียงกีตาร์ริฟฟ์ที่รุนแรงและหนักแน่น ริฟฟ์ถูกเล่นในกุญแจ A minor และสร้างความรู้สึกน่าหวาดกลัวทันที 2. Verse-Chorus: ส่วนนี้มี tempo เร็วขึ้น และริฟฟ์กีตาร์ถูกนำมาเล่นซ้ำด้วยเทคนิค Tremolo Picking
Ross Dolan ร้อง Growl ที่ต่ำลึกขมวดกรามลงในเนื้อหาที่รุนแรงและน่าขนลุก Steve Shalaty บันทึกเบสที่ทรงพลังและรัวเร็ว
3. Bridge:
ส่วนนี้เป็นช่วงโสโล กีตาร์ที่แสดงความสามารถของ Robert Vigna ในการสร้างเมโลดีที่ซับซ้อนและน่าจดจำ กลองถูกเล่นด้วย tempo ที่เร็วขึ้นและทำให้เพลงมีความกระหือกระheiser 4. Outro: เพลงจบลงด้วยการรัวกีตาร์และเบสอย่างรุนแรง
อิทธิพลและความสำคัญของ “Progenies of the Great Apocalypse”
“Progenies of the Great Apocalypse” ถือเป็นหนึ่งในเพลงที่โดดเด่นที่สุดของ Immolation และเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของ blackened death metal เพลงนี้ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์และแฟนเพลงทั่วโลก
Immolation มีอิทธิพลต่อวงดนตรีโลหะหนักมากมายในยุคหลัง
Immolation ยังคงเป็นหนึ่งในวงดนตรีโลหะหนักที่ 활동อยู่ และพวกเขายังคงผลิตผลงานที่มีคุณภาพสูง